ข่าวสารและบทความ

บ้านน้ำท่วม ควรรับมืออย่างไร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

บ้านน้ำท่วม ควรรับมืออย่างไร เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ สร้างความลำบากให้กับหลายท่านที่ได้รับผลกระทบไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อน้ำท่วมกะทันหันและไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งจะต้องทำอย่างไรบ้าง เจมาร์ท ประกันภัย มีวิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมกะทันหัน และวิธีฟื้นฟูบ้านหลังน้ำท่วม มาฝากกันค่ะ

น้ำท่วมกะทันหัน รับมืออย่างไร

เมื่อน้ำท่วมกะทันหัน หากไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อน จะมีหลายสิ่งที่ต้องแก้ไขหรือจัดการในเวลาจำกัด ดังนั้นจึงอาจทำได้ไม่ครบทุกอย่าง แต่สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักเหนือสิ่งอื่นใด คือการคำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตของทุกคนในบ้านก่อนเสมอ มีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ 

  • ล็อกประตูบ้าน ปิดวาล์วแก๊สให้สนิท ตัดระบบไฟฟ้า ปิดปลั๊กไฟด้วยเทปกาวเพื่อป้องกันการรั่วไหล ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดภายในบ้าน ห้ามสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้าและไม่เข้าใกล้บริเวณปลั๊กไฟ
  • อพยพบุคคลในครอบครัว ทั้งผู้ป่วย ผู้สูงอายุ เด็ก และสัตว์เลี้ยง ไปอยู่ในพื้นที่สูงพ้นจากระดับน้ำท่วม หรือที่ปลอดภัย
  • อย่าลืมย้ำกับทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะเด็ก ๆ ให้ระมัดระวังตัว ไม่สัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้า ปลั๊กไฟ และให้ระมัดระวังไม่สัมผัสน้ำหรือสิ่งของที่ถูกน้ำโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ ตลอดจนเชื้อโรคที่มากับน้ำ
  • ฉีดสเปรย์หรือทายาป้องกันยุงและแมลงให้กับทุกคนในครอบครัว
  • รีบนำเอกสารสำคัญเก็บไว้ในถุงหรือซองกันน้ำ เช่น ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีธนาคาร หรือเอกสารการทำงานอื่น ๆ เป็นต้น
  • จัดของอื่น ๆ ที่สำคัญไว้เป็นกล่องหรือเป็นถุง และขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงพ้นจากระดับน้ำท่วม
  • หากจำเป็นต้องอพยพออกจากบ้าน ควรสวมเสื้อผ้าสีสว่างเห็นง่ายและเป็นเสื้อผ้าที่เคลื่อนไหวได้สะดวก โดยให้นำแต่ของที่จำเป็นติดตัวไป
  • เมื่อออกจากบ้าน ให้เดินอย่างระมัดระวัง ใส่รองเท้าตลอดเวลา โดยควรเป็นรองเท้าบูทหนา เพื่อป้องกันเท้าจากเศษสิ่งของอันตรายที่ลอยมากับน้ำ เช่น เศษแก้วหรือของมีคม และเพื่อป้องกันเท้าจากโคลนที่อาจทำให้ลื่นได้  
  • ระวังสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์อันตรายที่มากับน้ำ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง เป็นต้น
  • หากเดินออกมานอกบ้านแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย เช่นพบสิ่งกีดขวางมากมาย กระแสน้ำเชี่ยว หรือรู้สึกถึงกระแสไฟในน้ำ ให้เดินกลับเข้าบ้าน แล้วแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
  • หากอยู่นอกบ้าน หลีกเลี่ยงการเดินตามเส้นทางที่น้ำไหล เพื่อป้องกันถูกกระแสน้ำแรงพัดพาไป หากจำเป็นต้องเดินผ่านให้หาไม้ยาวจุ่มวัดดูระดับน้ำก่อน
  • หากขับรถอยู่ ให้หาที่จอดและลงจากรถ ห้ามขับรถในพื้นที่ที่กำลังเกิดน้ำท่วมและห้ามขับย้อนกลับไปในทางที่น้ำกำลังท่วม เพื่อป้องกันรถเสียหายและอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
  • ติดตามข้อมูลข่าวสารหรือการแจ้งเตือนน้ำท่วมอยู่เสมอ เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน โดยหากได้รับสัญญาณเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน ให้รีบเตรียมการต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว 

บ้านโดนน้ำท่วม รับมืออย่างไร

สิ่งที่ควรทำหลังน้ำท่วมบ้าน คือการตรวจสอบสำรวจความเสียหายในบ้านอย่างระมัดระวัง เพื่อเตรียมซ่อมแซมฟื้นฟูบ้าน ซึ่งมีข้อควรปฏิบัติและข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัยดังนี้ค่ะ

  • เปิดประตูและหน้าต่าง เพื่อระบายความชื้นและฝุ่น และเพื่อให้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน หากยังมีน้ำท่วมขัง ให้ระบายน้ำออกช้า ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แรงดันน้ำทำให้ผนังหรือพื้นห้องเกิดรอยแตกเสียหายได้ 
  • ตรวจสอบระบบไฟ  ให้สับคัตเอาต์ เพื่อตัดระบบไฟฟ้าในบ้านไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เสี่ยงกับการถูกไฟดูด แล้วรอให้น้ำแห้งประมาณ 1-3 วัน จึงทดลองเปิดวงจรไฟฟ้าขึ้นอีกครั้ง หากเปิดแล้วไฟฟ้าทำงานได้ปกติ แสดงว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่หากมีการตัดการจ่ายไฟ ก็แสดงว่ามีไฟฟ้าลัดวงจร ไฟดูด ไฟรั่ว ไฟตก ไฟเกิน จำเป็นจะต้องเรียกช่างไฟฟ้าโดยตรงมาตรวจเช็คเพิ่มเติมและซ่อมแซม  
  • ตรวจสอบถังแก๊ส หากได้กลิ่นแก๊สรั่ว ให้ปิดวาล์วที่ถังแก๊สและหัวเตาและนำถังแก๊สไปวางในที่อากาศถ่ายเท ห้ามเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด พร้อมนำคนในครอบครัวออกมาจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว และรีบโทรแจ้งร้านตัวแทนจำหน่ายแก๊ส หรือโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉิน 199  
  • ตรวจสอบระบบน้ำ เช่น ปั๊มน้ำ ที่อาจเกิดความเสียหายกับมอเตอร์และเป็นอันตรายได้ โดยห้ามนำปั๊มน้ำมาผึ่งแดดเอง เพราะมอเตอร์อาจไหม้ได้ ต้องเรียกช่างหรือผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและซ่อมแซมให้   
  • มองหาสิ่งแปลกปลอม  เมื่อน้ำลดแล้ว ควรเดินดูให้ทั่วบ้าน มองหาจุดที่เสียหายต่าง ๆ เพื่อเตรียมการซ่อมแซม พร้อมกับระมัดระวังซากข้าวของพัง หรือของที่สร้างอันตรายได้ เช่น เศษไม้ ตะปู เศษแก้วคม ที่อาจลอยมากับน้ำ โดยให้เก็บรวมไว้ทิ้งอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้อาจมีสัตว์ต่าง ๆ เข้ามาหลบในบ้าน หากเป็นสัตว์อันตราย ต้องโทรเรียกเจ้าหน้าที่ หรือผู้เชี่ยวชาญมาจัดการทันที
  • ตรวจสอบโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็น ตัวบ้าน ระเบียง หลังคา ฝ้าเพดาน ผนัง และ พื้น ทุกส่วนนี้ หากเกิดความเสียหายควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือเรียกช่างมาซ่อมแซม เปลี่ยนหรือทำใหม่  
  • สำรวจเฟอร์นิเจอร์และของใช้ หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้  ควรทำความสะอาดและปล่อยให้แห้งในที่ร่ม หรืออาจใช้พัดลมช่วยเป่า หรือ จ้างช่างมาซ่อมแซมไปตามสภาพความเสียหาย แต่หากเป็นเฟอร์นิเจอร์วัสดุอมน้ำ ที่มีส่วนประกอบของวัสดุประเภท ฟองน้ำ นุ่น หรือใยมะพร้าว อย่างเช่น เก้าอี้ โซฟา ที่นอน หากแช่น้ำชำรุดจนยากที่จะทำความสะอาดแล้ว ก็ควรตัดใจทิ้งไป เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่ติดมากับน้ำสกปรก ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้  
  • อย่าลืมห้องส้วม กรณีมีน้ำท่วมขังบ่อเกรอะ บ่อซึม อาจทำให้ของเสียไม่สามารถซึมออกไปได้และอาจจะทำให้น้ำไหลย้อนขึ้นกลับเข้ามาในบ่อ ส่งผลให้ส้วมราดไม่ลง ควรเรียกช่างหรือผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบและแก้ไข
  • ตรวจสอบประตูบ้านและรั้วบ้าน ประตูและรั้วบ้านเป็นด่านแรกของบ้านที่สำคัญมากจึงต้องรีบซ่อมแซม หากเป็นประตูพลาสติกหรือวัสดุสังเคราะห์ จะทนน้ำ ไม่ค่อยเกิดปัญหาอะไร แต่หากเป็นประตูไม้ อาจบวม ปิดได้ไม่สนิท ให้ลองถอดประตูออกมาเช็ด และผึ่งไว้ให้แห้ง ส่วนประตูเหล็กอาจเกิดสนิมขึ้นได้ ให้ใช้น้ำยาขัดสนิม แล้วเช็ดทำความสะอาด รอให้ประตูแห้งสนิทแล้วทาสีทับ โดยหากประตูหรือรั้วชำรุดมาก ก็จำเป็นต้องรื้อออกและทำใหม่ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเข้ามาในบ้านที่เปิดไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นอันตรายจากบุคคลหรือสัตว์ต่าง ๆ
  • ตรวจสอบรางน้ำ ท่อน้ำ บ่อพักน้ำ ดูว่า มีเศษขยะ หรือ โคลนมาติดอยู่หรื่อไม่ หากพบสิ่งอุดตัน ให้ใช้พลั่วตักออก นำใส่ถุงขยะ มัดให้แน่นก่อนนำไปทิ้ง  
  • ระวังโรคที่มากับน้ำท่วม ระวังสุขภาพของทุกคนในครอบครัว สังเกตอาการที่อาจมากับน้ำท่วม เช่น โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง โรคฉี่หนู โรคท้วงร่วง ฯลฯ หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที
  • สุดท้าย สิ่งที่สำคัญลืมไม่ได้เลย ก็คือ ถ่ายรูปความเสียหายภายในบ้าน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่ต้องเรียกค่าชดเชยจากประกันภัย และเพื่อใช้ประโยชน์ในการซ่อมแซม

อย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณจะเข้าใจและสามารถรับมือดูแลบ้านหลังน้ำท่วมได้อย่างดีแล้ว แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ คุณจึงควรมีตัวช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับทุกคนในครอบครัว ด้วยประกันภัยจาก เจมาร์ท ประกันภัย ไม่ว่าจะเป็น ประกันภัยบ้าน ประกันภัยอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ประกันภัยรถยนต์ และประกันภัยอื่น ๆ อีกหลายรูปแบบที่ครอบคลุมทุกความต้องการ

ติดต่อสอบถามค้นหาประกันภัยที่เหมาะสมกับคุณได้ที่ เจมาร์ท ประกันภัย โทร. 02 099 0555 ต่อ 4262 หรือที่ LINE : @jaymartinsurance ค่ะ

By Jaymart Content Team : RIYA